หลังจากที่ บิ๊กโจ๊ก หรือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ในช่วงตอนหนึ่งระบุว่า มีการจ่ายสินน้ำใจให้กับกลุ่มผู้สื่อข่าว ในการติดตามลงพื้นที่ไปทำข่าวต่าง ๆ นั้น จนกลายเป็นกระแสที่หลายคนถูกพูดถึง จนมีการตั้งกรรมการตรวจสอบนักข่าวที่รับเงินจากบิ๊กโจ๊ก
ล่าสุด พล.ต.ท.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ นายกสมาคมพนักงานสอบสวน ในฐานะที่ปรึกษา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้เปิดเผยว่า เคยได้รับเงินช่วยเหลือในการทำคดีต่าง ๆ เมื่อครั้งเป็นหัวหน้าชุดสืบสวนทำคดีร่วมกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ครั้งละ 50,000 บาท ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปปฏิบัติหน้าที่ ทั้งเป็นค่าที่พัก และค่าอาหาร ซึ่งปัจจุบันตนยังได้รับเงินเดือนละ 50,000 บาท ในฐานะที่ปรึกษาช่วยเหลือทำคดีต่าง ๆ
ส่วนกรณีที่พนักงานสอบสวนชุด PCT ออกทั้งหมายค้นและหมายจับ เป็นการขอหมายโดยมิชอบ เนื่องจากไม่ระบุข้อมูลส่วนตัว ทั้งยศ ตำแหน่ง และอาชีพ ทำให้การสอบสวนจะไม่มีความเที่ยงตรง และจะพิสูจน์ฝีมือพนักงานสอบสวนว่า มีฝีมือหรือไม่ จะให้ความเป็นธรรมหรือไม่ หรือมีธงในการทำคดีหรือไม่ แต่ไม่ใช่ว่า หากมีเส้นทางการเงินไปเกี่ยวข้องกับใคร แล้วจะมีความผิดทั้งหมด
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ไพโรจน์ กล่าวต่อว่า การทำงานของตน ด้านการสืบสวนยาเสพติด มักจะออกหมายเรียกก่อนจะขอศาลออกหมายจับตามขั้นตอน แต่ก็เห็นด้วยหากพนักงานสอบสวน มีหลักฐานเชื่อได้ว่าบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการทำผิดก็ให้เชิญมาให้ข้อมูลก่อนจะดำเนินการขั้นต่อไป หากพนักงานสอบสวน ยังทำคดีแบบมีข้อสงสัย ก็อาจโอนการสอบสวนไปยังหน่วยงานอื่น ซึ่งก็จะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ไม่มีอำนาจในการสอบสวนเอง
อย่างไรก็ตาม หากชุดสืบสวนสอบสวนพบว่า ตัวเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับเงินโอนมาจากบัญชีม้า และฐานะที่ปรึกษาของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็พร้อมเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการเชิญหรือออกหมายเรียกตัวเองมาให้ปากคำ
