เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.ศราวุธ จันต๊ะวงค์ ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ปรัชญ์ แม้นเดช สว.กก.2 บก.ป. นำกำลังจับกุม น.ส.ธัญทิพย์ หรือจูน (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพล ความผิดฐาน “กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต และประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต” ได้ที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ถนนสุดบรรทัด ต.ปากเพรียว อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมา สืบเนื่องจากเมื่อประมาณกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาผู้ต้องหามาพบกับผู้เสียหายที่ร้านนวดแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น พร้อมกับหิ้วกระเป๋าเหมือนใส่เครื่องสำอาง
จากนั้นผู้ต้องหาแนะนำว่าเป็นครูสอนทำผม และเคยทำที่คลินิกความงามมากว่า 10 ปี มีความชำนาญเรื่องการออกแบบใบหน้าและสามารถฉีดฟิลเลอร์กับโบท็อกซ์ ได้ในราคาไม่แพง และคำโฆษณาชวนเชื่อว่าเป็น “ฟิลเลอร์แท้ โบท็อกซ์แท้ 1,000,000%” ผู้เสียหายหลงเชื่อและตกลงฉีดโดยคำแนะนำจากนั้นผู้ต้องหาชักชวนพนักงานในร้านนวดอีก 3 ราย โดยตกลงราคากันที่รายละ 10,000 บาท แต่หากใครอยากทำจุดไหนเพิ่มก็จะบวกราคาไปอีก ในระหว่างขั้นตอนการฉีดสารผู้ต้องหาไม่มีการทำความสะอาดมือและใบหน้าผู้เสียหาย ไม่สวมถุงมือ ใช้นิ้วมือในการเช็ดเลือดจากใบหน้าผู้เสียหาย โดยซับกับทิชชู จากนั้นวางทิชชูกองรวมไว้ที่พื้นในลักษณะไม่ถูกสุขลักษณะตามหลักการแพทย์ที่ถูกต้อง
ต่อมาหลังจากผู้เสียหายฉีดไปได้เพียง 1 วันกลับมีอาการหนองขึ้นทั่วบริเวณใบหน้า ตาบวมปิด ปวดและมีอาการคลื่นไส้อาเจียน จึงโทรติดต่อไปยังผู้ต้องหา ผู้ต้องหาบ่ายเบี่ยงและแจ้งว่าเป็นอาการปกติหลังฉีด เดี๋ยวจะค่อยๆ ดีขึ้นแต่ผ่านไป 1 อาทิตย์ อาการเริ่มหนักขึ้นผู้เสียหายจึงเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลขอนแก่น แพทย์ระบุแจ้งว่า “เป็นภาวะอักเสบจากสิ่งแปลกปลอมสารเหลวทั่วใบหน้า” ต้องทำการผ่าตัดเอาสารเหลวออกทั้งหมด โดยไม่สามารถเจาะ หรือดูดออกได้ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการหลายแสนบาทต่อครั้ง ผู้เสียหายไม่สามารถหาเงินจำนวนมากจึงขอรักษาตามอาการ และใช้ชีวิตอยู่ด้วยความทุกข์ทรมานสาหัส ไม่สามารถดำเนินชีวิตได้เป็นปกติจนถึงปัจจุบัน แต่ยังคงเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง พยายามติดต่อผู้ต้องหาก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก
ก่อนจับกุมชุดสืบสวน กก.2 บก.ป. สืบทราบว่าผู้ต้องหามาสอนทำผมอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง จึงเข้าไปตรวจสอบ พบยืนอยู่บนเวทีทำการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กเพจทำผม จึงเชิญตัวลงมา และขอตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชนซึ่งผู้ต้องหาแจ้งว่าไม่ได้พกทำบัตรประชาชนมา จึงตรวจสอบเอกสารใบขับขี่รถยนต์ พบว่ามีตำหนิรูปพรรณตรงตามหมายจับ จึงแสดงหมายจับสอบถามผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การภาคเสธ โดยรับว่าเคยทำมาแล้วหลายครั้งในหลายพื้นที่ โดยที่ไม่ความรู้ด้านการแพทย์มาก่อน ไม่เคยจบการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์แต่อย่างใด อาศัยแอบอ้างโฆษณาหลอกลวงทำหัตถการให้กับลูกค้าที่มาทำผมที่ร้าน จึงนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.พล ดำเนินการต่อไป
